การเจ็บป่วยถือเป็นเรื่องไม่น่าอภิรมย์นัก ถึงแม้จะพยายามหลีกเลี่ยงโรคภัยยังไงก็ไม่มีทางหนีพ้น เพราะบางครั้งกิจวัตรประจำวันของเราก็ก่อให้เกิดโรคได้โดยไม่รู้ตัว เช่น โรค “ออฟฟิศซินโดรม” ที่จะมาพูดถึงกันในวันนี้ เรามาลุ้นกันว่าคุณตกเป็นเหยื่อของโรคนี้รึยัง?
ออฟฟิศซินโดรมคืออะไร?
ออฟฟิศซินโดรม
(Office Syndrome)
คือกลุ่มอาการปวดเมื่อยบริเวณคอ บ่า หลัง และอาการเจ็บป่วยอื่น ๆ ที่เกิดจากการนั่งท่าเดิมต่อเนื่องวันละหลายชั่วโมงโดยแทบไม่มีการเปลี่ยนอิริยาบถ
ซึ่งส่วนมากมักเกิดกับพนักงานออฟฟิศจึงกลายเป็นที่มาของชื่อโรคนั่นเอง
อาการของออฟฟิศซินโดรม
มักจะเริ่มจากอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งอาจมาไม่พร้อมกัน ส่งผลให้เกิดการละเลยไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ปล่อยให้อาการรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นอาการป่วยเรื้อรังที่สร้างความลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งอาจนำไปสู่โรคร้ายแรง เช่น หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท กระดูกสันหลังคด หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น ฯลฯ
ออฟฟิศซินโดรมประกอบไปด้วยอาการเหล่านี้
- ปวดศีรษะ
- วิงเวียนศีรษะ
- ปวดรอบดวงตาและตาแห้ง
- ปวดกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน เช่น คอ บ่า หลัง ข้อมือ
- นิ้วล็อก
- เกิดอาการชาที่มือ เท้า เป็นระยะ ๆ
ภาพจาก freepik.com
หากมีอาการข้างต้น
(ไม่ต้องครบทุกข้อ) ต่อเนื่องบ่อย ๆ ควรเข้าพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างทันท่วงที
ถึงโรคนี้จะมีการรักษาหลากหลายวิธี แต่การปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะกับเราที่สุดก็เป็นสิ่งจำเป็นเพราะแต่ละคนมีสรีระและพฤติกรรมแตกต่างกัน
ฉะนั้นควรรักษาภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดจะดีที่สุด
วิธีการป้องกันออฟฟิศซินโดรม
- จัดท่านั่ง โดยนั่งหลังตรงไม่งอหลัง แขนควรวางพาดไปบนโต๊ะ คีย์บอร์ดไม่ชิดไม่ห่างตัวเกินไป หน้าจอต้องไม่อยู่ในระดับที่ต้องก้มหรือเงย นั่งให้หลังชิดพนักพิง
- จัดที่นั่ง เลือกเก้าอี้ที่เหมาะสมกับสรีระ ไม่เตี้ยไม่สูงเกินไป และมีความสูงสัมพันธ์กับโต๊ะทำงาน
- หมั่นขยับตัว เปลี่ยนท่านั่งทุก 1-2 ชั่วโมง สามารถเปลี่ยนมุมของเก้าอี้ที่หันเข้าโต๊ะได้
- ยืดเส้นยืดสาย อาจจะลุกมายืดเส้นสายทุกชั่วโมง เพื่อป้องกันกล้ามเนื้อยึดตัว
- พักสายตา ควรหาเวลาละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นช่วง ๆ
แต่ไม่ใช่การหลบจอคอมแล้วมาจ้องโทรศัพท์แทน ช่วงพักสายตาควรหลับตาหรือมองทิวทัศน์รอบตัว
- พักผ่อนให้เพียงพอ ควรนอนหลับให้เพียงพอ สัก 7-9 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้รับการพักผ่อน เมื่อหัวถึงหมอนก็ไม่ควรใช้โทรศัพท์เพราะคุณจะต้องยืดคอเพื่อดูโทรศัพท์ขณะนอน
- หมั่นออกกำลังกาย ควรหาเวลาว่างออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กล้ามเนื้อ
ภาพจาก freepik.com หากปฏิบัติได้ทั้งหมดจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดออฟฟิศซินโดรมได้อย่างไม่น่าเชื่อ และยังช่วยลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้อีกด้วย ออฟฟิศซินโดรมดูเหมือนจะเป็นโรคที่สามารถเกิดกับใครก็ได้ง่าย
ๆ กลายเป็นภัยเงียบที่มาเยือนเราโดยที่ไม่รู้ตัว
แต่ในทางกลับกันถ้าเรารู้จักมันแล้วเราก็สามารถป้องกันได้ไม่ยากหากเราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพียงเล็กน้อย
ซึ่งการไม่เจ็บไม่ป่วยถือเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการอยู่แล้ว
ดั่งที่พุทธศาสนสุภาษิตได้กล่าวไว้ว่า "อโรคยา ปรมาลาภา
การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ"
เพราะฉะนั้นเราควรใส่ใจสุขภาพเป็นอย่างแรก อย่าเอาแต่จับจ้องงานจนมองข้ามตัวเอง