เพราะอะไร จึงเลือกใช้กระดาษคราฟต์ (KRAFT)

เพราะอะไร จึงเลือกใช้กระดาษคราฟต์ (KRAFT)

Design Inspiration | 23 Nov 2019

8,584 Views

ความน่าสนใจของกระดาษคราฟต์

  • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  • มีความแข็งแรงทนทานกว่ากระดาษแข็งธรรมดา
  • สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้
  • สร้างความโดดเด่นให้กับชิ้นงานหรือผลิตภัณฑ์
  • นำมาประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย

เดี๋ยวนี้หันมองไปทางไหนๆ ก็เหมือนว่าจะเจอแต่เจ้ากระดาษสีน้ำตาลในทุกแห่งหน ตั้งแต่ครอบแก้วกาแฟ นามบัตร ป้ายแท็ก ที่คั่นหนังสือ ปกสมุดบันทึก ถุงใส่อาหารฟาสต์ฟู้ด กล่องสินค้า ไปจนถึงถุงช็อปปิ้งจากร้านรวงต่างๆ เรียกได้ว่าเห็นกันจนชินและกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราๆ ไปแล้ว แต่คุณผู้อ่านเคยสงสัยบ้างหรือเปล่าว่า กระดาษที่ว่านี้มีความเป็นไปเป็นมายังไง แล้วมันมีดีตรงไหน ทำไมใครๆ จึงต่างพากันใช้กระดาษชนิดนี้ในผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์รูปแบบต่างๆ ถ้าอยากรู้ก็ตามมาเลย

สวัสดี “คราฟต์”

ใช่แล้ว กระดาษสีน้ำตาลที่เรากำลังพูดถึงอยู่ นั้นเรียกสั้นๆ ว่า “คราฟต์” (Kraft) เนื่องจากผลิตโดยใช้กระบวนการคราฟต์ โดยคำนี้เป็นคำมาจากภาษาสวีเดน แปลว่า “ความแข็งแรง” เนื่องจากกระดาษคราฟต์คุณภาพดีนั้นต้องยืดหยุ่นและแข็งแรงสมชื่อ อาจมีน้ำหนักความหนา (Gram per Square Meter) ได้ตั้งแต่ 100 ถึง 500 แกรม จึงทำให้กระดาษคราฟต์สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย และโทนสีน้ำตาลธรรมชาติของมันสามารถเพิ่มน่าสนใจให้กับสินค้านั้นๆ ได้เป็นอย่างดี

กระบวนการผลิตกระดาษคราฟต์ สามารถอธิบายคร่าวๆ ได้ดังนี้

  1. เตรียมเนื้อไม้ โดยกำจัดเปลือกไม้หรือตาไม้ออกจนได้แต่เนื้อไม้ ไม้ที่นิยมนำมาใช้ทำกระดาษได้แก่ ไผ่ ปอ ยูคาลิปตัส และสน
  2. นำเนื้อไม้ที่ได้ไปเข้าเครื่องบดสับให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เพื่อนำไปผลิตเป็นเยื่อโดยกรรมวิธีทางเคมี
  3. ชิ้นไม้ถูกส่งเข้าหม้อต้มเพื่อผลิตเป็นเยื่อเซลลูโลส ภายในหม้อมีสารเคมี เช่น โซเดียมไฮดรอกไซต์ และโซเดียมซัลไฟด์ รวมทั้งใช้ความร้อนเพื่อกำจัดลิกนินรวมทั้งสิ่งเจือปนต่างๆ ออกไป จนกระทั่งได้น้ำเยื่อสีน้ำตาลเข้ม ในระหว่างขั้นตอนนี้ผู้ผลิตอาจฟอกเยื่อให้ได้สีที่อ่อนลงตามต้องการ เยื่อเซลลูโลสถูกส่งไปยังเครื่องผลิตกระดาษแผ่นยาว ซึ่งหน้าที่หลักก็คือ 1) แยกน้ำออกจากน้ำเยื่อจนเยื่อก่อตัวเป็นแผ่นเปียก 2) กดน้ำออกจากแผ่นเปียกเพื่อให้เส้นใยภายในเยื่อเกาะยึดแน่นขึ้น 3) อบแผ่นกระดาษให้แห้งจนเหลือความชื้นที่ร้อยละ 4-6

จากนั้นกระดาษคราฟต์ที่ได้จะถูกม้วนเป็นก้อนใหญ่ และคลายออกเพื่อตัดแบ่งให้ได้กระดาษขนาดตามต้องการ



กระดาษคราฟต์ดีกว่ายังไง?

1. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 

เทรนด์กระแสรักษ์โลกกำลังมาแรงในช่วงนี้ ผู้ผลิตหลายแบรนด์จึงลดการใช้พลาสติกในผลิตภัณฑ์รวมทั้งบรรจุภัณฑ์ และนำวัสดุทางเลือกใหม่ๆ เข้ามาใช้ หนึ่งในนั้นก็กระดาษคราฟต์ที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ สำหรับอุตสาหกรรมกระดาษในประเทศไทย ไม้ที่นำมาผลิตกระดาษก็ได้มาจากแหล่งปลูกของเกษตรกร ได้แก่ ไผ่, ปอ และยูคาลิปตัส ซึ่งเป็นไม้เศรษฐกิจสำคัญของไทยอยู่แล้ว นอกจากนี้สารเคมีและน้ำที่ใช้ในระหว่างการคราฟต์ยังสามารถเอากลับมาใช้ซ้ำได้อีกด้วย

2. มีความแข็งแรงทนทานกว่ากระดาษแข็งธรรมดา

เยื่อกระดาษจากกรรมวิธีทางเคมีจะมีความเหนียวและนุ่มกว่าวิธีเชิงกลที่ใช้ในการผลิตกระดาษแข็งทั่วไป เพราะทำให้ได้เส้นใยเซลลูโลสในสภาพสมบูรณ์และมีลิกนินหลงเหลือน้อยกว่า สำหรับการผลิตกระดาษคุณภาพสูง ลิกนินต้องถูกกำจัดออกในระหว่างขั้นตอนการผลิตเยื่อ เนื่องจากลิกนินทำให้กระดาษมีสีหมองคล้ำขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ผู้ผลิตกระดาษคราฟต์มักจะผลิตกระดาษออกมาให้มีความหนาบางหลายขนาด เริ่มตั้งแต่ขนาดความหนาระหว่าง 100 ถึง 500 แกรม คุณสมบัติอันน่าทึ่งของกระดาษคราฟต์อีกอย่างหนึ่งก็คือ มีน้ำหนักเบามาก


3. สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้

ความแข็งแรงคือความโดดเด่นโดดเด่นของกระดาษคราฟต์ จึงทำให้ผลิตภัณฑ์หรือวัสดุที่ทำจากกระดาษชนิดนี้สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้อีกหลายครั้ง และยังทนต่อสภาพแวดล้อม แสงแดด ความชื้น และละอองน้ำได้ดี การใช้ซ้ำถือเป็นหนึ่งในหลัก 3 R เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมที่ยั่งยืน (Reduce-Reuse-Recycle)

4. สร้างความโดดเด่นให้กับชิ้นงานหรือผลิตภัณฑ์

นามบัตรกระดาษขาวอาจดูธรรมดาไป ลองสร้างความแปลกใหม่ด้วยนามบัตรกระดาษคราฟต์ดูบ้างก็ไม่น่าจะเสียหาย และเป๊ะสุดสำหรับธุรกิจหรือองค์กร “สีเขียว” เพราะผิวสัมผัสของกระดาษคราฟต์สามารถสื่อถึงความเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้เฉดสีน้ำตาลของกระดาษคราฟต์ยังสร้างเอกลักษณ์ให้กับบรรจุภัณฑ์และสื่อถึงความเรียบง่ายได้อย่างชัดเจน

5. นำมาประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย

ดังที่เกริ่นนำไว้ในตอนต้นว่า สิ่งของสารพัดอย่างในชีวิตยุคใหม่ใส่ใจโลกเริ่มผลิตจากกระดาษคราฟต์กันแล้ว เพื่อทนแทนการใช้พลาสติก ตั้งแต่ครอบแก้วกาแฟ ไปจนถึงถุงช็อปปิ้ง อันที่จริงแล้วกระดาษคราฟต์แทบไม่มีข้อจำกัดสำหรับการประยุกต์ใช้ เพราะคุณสมบัติที่ดีหลายประการของมันยังสามารถนำมาทำเป็นปกสมุด กล่องอาหาร กระดาษห่อของขวัญลายน่ารัก ที่คั่นหนังสือ ป้ายแท็กสินค้า และงานฝีมืออื่นๆ อีกมากมาย


เรื่องน่ารู้

รู้ไหมว่า… กระดาษห่อเนื้อ และกระดาษห่อเบอร์เกอร์ คือ กระดาษคราฟต์ชนิดพิเศษ ที่ FDA ของสหรัฐอนุญาตให้ใช้บรรจุหรือสัมผัสกับอาหารได้โดยตรง ซึ่งกระดาษทั้งสองชนิดมีส่วนผสมของสารกันซึมซึ่งสามารถทนต่อของเหลวและความชื้นได้ดีกว่ากระดาษคราฟต์ธรรมดา และยังมีการฟอกสีให้น่าใช้งานมากขึ้น เช่น สีชมพู สีเหลือง สีครีม และสีน้ำตาลอ่อน


อ้างอิง

EA4H x 6 pcs.

EA4H x 6 pcs.

฿165.00

ซองใส่เอกสาร A4 แนวนอน
ขนาด : 315 x 240 มม.
วัสดุ : กระดาษคราฟต์ 300 แกรม
ขนาดบรรจุ 6 ชิ้น/แพ็ก
มีความหนากว่าซองเอกสารปกติ 3 เท่า ใช้ซ้ำได้มากกว่า 10 ครั้ง
สามารถจัดเก็บเอกสารได้เป็นระบบระเบียบ
ทดแทนซองพลาสติก เท่ากับลดปัญหาสิ่งแวดล้อม

Kraft
รายละเอียดสินค้า

Our Products

Related Posts

Messenger Line