ปากกา (ที่ใช้จดงานทั่วไป) เป็นเครื่องเขียนที่ทุกคนต่างคุ้นเคยกันดี แต่เรากลับไม่ค่อยรู้จักกับปากกาเลยจริง ๆ โดยเฉพาะชนิดของปากกา ส่วนมากเราจะคุ้นหูอยู่กับปากกาหมึกซึมและปากกาลูกลื่น โดยอาจไม่ทราบถึงการมีอยู่ของปากกาชนิดอื่น ๆ วันนี้เราจะมาเล่าถึงความแตกต่างของปากกาแต่ละชนิดว่ามีคุณสมบัติต่างกันอย่างไร? รู้ไปแล้วจะส่งผลกับการทำงานอย่างไร? เดี๋ยวเราจะไปหาคำตอบกัน
ปากกาลูกลื่น (Ballpoint Pen)
ปากกาทั่วไปที่ใคร ๆ ก็รู้จัก มีลักษณะพิเศษคือหมึกจะไม่ได้ไหลออกจากปลายปากกาทันทีแต่จะผ่านมีลูกบอลโลหะขนาดจิ๋วก่อน ส่งผลให้ปากกาเขียนได้ลื่นไหล อีกทั้งยังแห้งไวไม่ซึมไปหน้าหลังและกันน้ำเพราะใช้หมึกน้ำมัน มีอายุการใช้งานค่อนข้างนาน เนื่องจากความข้นของหมึกจึงใช้ปริมาณน้อยในการเขียน อีกทั้งยังแห้งยากแม้ลืมปิดฝาจึงไม่มีความจำเป็นต้องดูแลรักษา แต่บางครั้งเส้นที่เขียนอาจจะออกมาไม่สม่ำเสมอเพราะหมึกจับตัวเป็นก้อน แต่เนื่องจากเป็นปากกาที่มีราคาถูกจึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ มีสีให้ใช้น้อย (น้ำเงิน, แดง, ดำ) เหมาะแก่การใช้เขียนงานหรือเซ็นเอกสารทั่วไป
=
ปากกาลูกลื่น (ภาพโดย
จาก freepik.com)ปากกาโรลเลอร์บอล (Rollerball Pen)
ปากกาที่มีหัวปากกาแบบเดียวกับปากกาลูกลื่น แต่สิ่งที่แตกกันจะอยู่ที่หมึก โรลเลอร์บอลใช้หมึกผงผสมน้ำหมึกจึงไม่ข้นเท่าหมึกน้ำมันทำให้เส้นที่เขียนออกมาจะมีความสม่ำเสมอและเขียนได้ลื่นไหลกว่าปากกาลูกลื่น ใช้แรงกดในการเขียนน้อยมาก มีสีให้เลือกมากกว่าเพราะใช้หมึกผงผสมน้ำ แต่มีข้อเสียคือหมึกซึมไปหน้าหลัง และเลอะได้ง่ายเพราะแห้งช้ากว่าปากกาลูกลื่น ใช้หมึกค่อนข้างมากในการเขียนจึงมีอายุการใช้งานสั้น และแห้งง่ายมากถ้าไม่ปิดฝา ต้องอาศัยการทะนุถนอมพอประมาณ เหมาะแก่การใช้ในการจดโน้ตที่เน้นความรวดเร็ว (กับกระดาษที่ค่อนข้างหนา)
ปากกาโรลเลอร์บอล (ภาพโดย emcnama01 จาก pixabay.com)
ปากกาเจล (Gel Pen)
เป็นปากกาที่ประสิทธิภาพอยู่กึ่งกลางระหว่างปากกาลูกลื่นและโรลเลอร์บอล มีหัวปากกาเช่นเดียวกับปากกาลูกลื่น แต่หมึกจะเป็นหมึกผงละลายน้ำที่มีความข้นมากกว่าหมึกโรลเลอร์บอล ทำให้เขียนได้ลื่นไหลกว่าปากกาลูกลื่น เส้นที่เขียนมีความสม่ำเสมอ มีสีหมึกที่สดกว่าปากกาสองชนิดก่อนหน้า ใช้แรงกดในการเขียนปานกลาง จุดด้อยคือหมึกแห้งช้าและซึมง่ายเมื่อเขียนบนกระดาษ แต่หมึกในปากกากลับแห้งง่ายผิดกัน จำเป็นต้องดูแลรักษาเป็นอย่างดี ควรปิดฝาทุกครั้งเมื่อเลิกใช้ ใช้หมึกในการเขียนพอประมาณ เหมาะแก่การใช้จดโน้ตหรือเขียนงานที่มีการใช้สีหลากหลาย
ปากกาเจล (ภาพโดยHelen Orozco จาก flickr.com)
ปากกาหมึกซึม (Fountain Pen)
ปากกาหมึกซึมคือปากกาที่มีหัวแบบปากกาคอแร้ง (ปากกาที่ต้องเอาหัวจุ่มหมึกก่อนเขียน) แต่ปากกาหมึกซึมสามารถเก็บหมึกไว้ในตัวปากกาได้เหมือนปากกาลูกลื่นสามารถเติมหมึกได้ เส้นที่ปากกาขีดเขียนมีความคมสวยงาม แทบไม่จำเป็นต้องออกแรงกดสามารถเขียนได้อย่างลื่นไหล หมึกมีให้เปลี่ยนหลายเฉดสี ตัวด้ามจับมีความคงทนสวยงาม มีข้อจำกัดอยู่ที่ปากกาหมึกซึมไม่เหมาะกับกระดาษบางหรือคุณภาพต่ำ เพราะหมึกจะซึมออกหน้าหลัง ต้องคอยหมั่นทำความสะอาดบ่อย ๆ เพื่อป้องกันหัวปากกาอุดตัน เหมาะแก่การใช้วาดภาพหรือตัดเส้น
ปากกาหมึกซึม (ภาพโดย จาก pixabay.com)
แค่ปากกาที่ใช้เขียนบนกระดาษธรรมดาก็มีความแตกต่างกันมากขนาดนี้
ยังไม่รวมถึงปากกาที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะอื่น ๆ เช่น ปากกาเคมี ปากกาเขียนผ้า
ปากกาขีดเหล็ก ฯลฯ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าแม้แต่ปากกาธรรมดาก็มีจุดเด่นจุดด้อยของตัวเอง
เพราะฉะนั้นเราควรเลือกใช้ปากกาให้เหมาะสมกับงานถึงจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย ๆ
แต่เชื่อเถอะว่ามันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของคุณอย่างแน่นอน